1. เวลาคุยงาน หรือตัดสินใจอะไร ให้ทำกันเป็นกลุ่มไว้ก่อน
เนื่องจากว่าคนประเภทนี้มักจะมีนิสัยที่อย ากได้หน้าอยู่ในตัวอยู่แล้ว
และคนประเภทนี้ไม่ว่าเราเสนออะไรไป
เขาก็จะมีสิ่งที่ตัดสินใจอยู่ในใจไว้ก่อนแล้ว สุดท้ายก็อาจจะต้องมาจบ
ที่ไอเดียของเขาอยู่ดีไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน
หรือหัวหน้างานของคุณก็ตาม ดังนั้น เวลาที่เราต้องการจะนำเสนอไอเดีย
ของตัวเองเป็นไปได้ให้พย าย ามนำเสนอในที่ประชุม
หรือควรนำเสนอตอนอยู่กันเป็นกลุ่มดีกว่า และหลีกเลี่ยงการคุย
หรือนำเสนอไอเดียกันแบบตัวต่อตัว
เพื่อป้องกันการที่เขาจะคอยชักจูงความคิดเราเพื่อให้ลงเอยกับไอเดีย
ของเขา หรือการเอาไอเดียของเราไปแอบอ้างว่าเป็นของเขาเองได้
2. พย าย ามหาจุดอ่อนของความคิดของเขา เพื่อยิงคำถามด้วยข้อจำกัดต่างๆ
หากเราสามารถที่จะไม่ไปคัดค้านและเออออห่อหมกตามเขาไปแล้วในช่วงแรก
หลังจากนี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องลงมือทำอะไรบ้ างแล้ว
เนื่องจากว่าเราได้แกล้งทำเป็นเห็นด้วยกับความคิดของเขาแต่แรกทำให้เขารู้สึกว่า
เราไม่ได้กำลังต่อต้านความคิดของเขาอยู่
จึงสามารถเปิดโอกาสให้เรายิงคำถามที่แสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนของความคิดของ
เขา ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เราหาได้จากการเห็นด้วยกับเขาในช่วงแรก
จุดสำคัญก็คือการควบคุมตัวเองไม่ให้ไปตัดสินความคิดของเขา
แล้วให้เขาเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง
ว่าถ้ามีข้อจำกัดแบบนี้ เขายังจะสามารถยอมรับได้เหมือนเดิมอยู่หรือไม่
และเมื่อข้อจำกัดนั้นมันมากพอ
ก็จะทำให้เขายอมแพ้ไปเองในที่สุด โดยที่เราก็ไม่ไปมีปัญหากับเขา
3. ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมวงสนทนา หรือถกประเด็นกันทุ กครั้งที่ถูกชวน
เป็นการตัดปัญหาตั้งแต่แรก โดยหลีกเลี่ยงการร่วมวงสนทนาถกประเด็นต่าง ๆ
ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเราหรือเราไม่มีส่วนได้ส่วนเสี ย
ในการถกประเด็นในครั้งนั้น ๆ ไม่ว่าจะมีคนชวนหรือไม่ก็ตาม
เพราะส่วนใหญ่แล้วในวงสนทนาที่มีการถกประเด็นต่าง ๆ นั้น
ก็มักจะมีคนประเภทที่มีนิสัยชอบเอาชนะคนอื่น
โดยเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ปะปนอยู่ด้วยเสมอ และพวกเขาเหล่านั้น
ก็มักจะยึดมั่นในความคิดของตัวเอง
ที่คิดว่าถูกต้องที่สุดแล้วโดยไม่แม้แต่จะรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ๆ
ดังนั้นหากสามารถปล่อยผ่ านไปได้
ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ในเมื่อคุณก็ไม่ได้เสี ยอะไรอยู่แล้ว
และไม่มีความจำเป็นต้องรับปัญหาเข้ามาเพิ่ม
4. ลองพย าย ามทำความรู้จักเขาให้มากกว่านี้ก่อน
อาจจะเป็นเรื่องย ากเกินไปที่ต้องลองไปพย าย ามทำความรู้จักกับคนประเภทนี้
ให้มากขึ้นกว่าเดิมทั้ง ๆ ที่เรามีความรู้สึกที่ไม่ชอบเขาไปแล้ว
แต่ถ้าหากให้ลองมองเขาในฐานะที่เขาก็เป็นคน ๆ หนึ่งที่มีชีวิตทั่วไปเหมือน ๆ
กับเราดูบ้ าง มันก็จะทำให้เราสามารถ
ที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจขึ้นมาได้บ้ างและสามารถทำให้เรามองข้ามบาง
เรื่องที่มักจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีไปได้ในบางสถานการณ์
5. ลองมองโลกในแง่ดีก่อน ให้คิดว่าคนที่ชอบเอาชนะอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นแบบนั้นก็ได้
คนที่ชอบเอาชนะคนอื่นๆ ในทุ กเรื่อง บางทีเขาก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจทำให้คนอื่นๆ
ไม่พอใจก็ได้แต่เพียงแค่ตัวเขายังไม่รู้ตัวเองว่า
ได้แสดงพฤติกร รมที่ไม่ค่อยดีนักไปโดยไม่รู้ตัวซึ่งพฤติกร รมแบบนี้ก็ดันทำให้คนรอบข้าง
รู้สึกไม่ดี และก็อาจจะสงสัยว่าทำไมหลาย ๆ คน
ถึงมักจะหลบหน้าเขา หรือพย าย ามเลี่ยงที่จะคุยกับเขา ทั้งๆ ที่ตัวเองเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำ
หรือพูดออกไปนั้นมันดี และตัวเองก็ทำถูกต้องแล้ว
แต่คนอื่นๆ กลับไม่คิดแบบนั้นเพราะฉะนั้น หากเราต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่ างหลีกเลี่ยง
ไม่ได้จริง ๆก็ให้เราลองแสดงความเข้าอกเข้าใจแทนการไปตัดสินเขาทันที
ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นคนที่ทำให้เขาเริ่มรู้ตัวและเข้าใจถึง
สถานการณ์ของตัวเองมากขึ้นก็ได้
6. แกล้งทำเป็นเห็นด้วยกับเขา หรือทำเป็นให้ความสนใจไปก่อนในช่วงแรก
การที่คนประเภทพย าย ามเสนอตัว ทำโน่นทำนี่ หรือแสดงความคิดเห็นต่าง
ก็เพราะมีความต้องการที่อย ากจะเป็นที่ยอมรับในสังคม
ทำให้รู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนเก่งกว่าคนอื่น ๆและความคิดแบบนี้ก็ได้กลายเป็น
ความเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำนี่แหละต้องดีที่สุดแล้ว
ดังนั้น นอกจากจะไม่ไปคัดค้านเขาโดยตรงตั้งแต่แล้ว ให้เราแกล้งทำเป็นเห็นด้วย
หรือให้ความสนใจไปก่อนในช่วงแรก เพื่อป้องกันการเกิดปัญหา
และหาโอกาสพลิกสถานการณ์ให้เราเป็นฝ่ายคุมเกมต่อไป
7. อย่ าเพิ่งรีบไปตัดสิน/คัดค้านในสิ่งที่เขาพูด หรือกระทำออกมา
แน่นอนว่าคนประเภทนี้ พวกเขาจะมีความคิดว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมานั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
และมักจะคิดว่าดีเสมอ ซึ่งเมื่อมีคนว่าทักท้วง คัดค้าน
หรือแม้แต่ตั้งข้อสงสัย ก็จะทำให้เกินความรู้สึกโกรธและไม่พอใจ
เนื่องจากถูกมองว่าความคิดของเขานั่นไม่ถูกต้อง หรือไม่ดีพอ
และพวกเขาก็จะพย าย ามตอบโต้
ด้วยความอย ากเอาชนะที่รุ น แ ร งกว่าเดิมจมกว่าคนที่ไม่เห็นด้วยจะยอมจำนน
และยอมรับคำพูดของเขาในที่สุด
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่จะบานปลายไปกันใหญ่ เราจึงต้องพย าม
ทำความเข้าใจวิ ธีคิดของคนประเภทนี้
และอย่ าให้เขาควบคุมเราได้ ด้วยการแสดงออกที่ทำให้เรารู้สึกไม่พอใจ
ดังนั้น เราอย่ าเพิ่งรีบไปคัดค้านในสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยกับเขาทันที
เพื่อป้องกันการตอบโต้ที่รุ น แ ร งจากฝ่ายตรงข้าม
ขอบคุณที่มา : jingjai999