1. เมื่อใดที่เธอถูกเอารัดเอาเปรียบ ลองปล่อยวางดูบ้าง พูดมากจะเ สียมิตร
คิดเล็กคิดน้อยจะเสี ยกำลังใจ เธอจงจำไว้ “เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน” แค่นี้ก็เพียงพอให้เธอสุขใจวันนี้ยังกินข้าวได้
ยังนอนหลับได้ ยังมีเสื้อผ้าให้สวมใส่ ยังไปเที่ยวได้ ยังมีคนอยู่รอบกายยังอ่ า นหนังสือ อ่ า นเฟสอ่ า นไลน์ได้ ความสุขอาจหา
ไม่ง่าย แต่ความเรียบง่ายทำให้ชีวิตเป็นสุข เธอเอ๋ย สุขให้เป็น
2. เมื่อใดที่เธอรู้สึกไม่พอใจ ลองไตร่ตรองดู ไม่มีใครครอบครองสิ่งใดในโลกนี้ได้ตลอดไป
เธออาจไม่ได้รว ยล้นฟ้าเหมือนเศรษฐีมีเงิ น แต่เธออาจมีความสุขอันเรียบง่ายที่เศรษฐีโหยหาก็เป็นได้และเธอยังแข็งแรกมากกว่า
คนที่นอนป่ วยอยู่ตามโรงพย าบาลเธอโช คดีกว่าคนอื่นอีกมากเพียงใด เธอจงจำไว้ “มองล่างเธอเหลือ มองเหนือเธอข าด”
3. เมื่อใดที่เธอกลัดกลุ้ม ลองสุดลมหายใจลึกๆ ทบทวนดูว่าชีวิตนี้มันมีแต่ลดกับลด
ปฏิทินที่ฉีกไปในวันนี้กำลังบอกเธอว่าเวลาเธอลดไปอีกวันหนึ่งแล้ว การได้พบหน้ากันในวันนี้หมดโอกาสได้เจอกันไปอีกครั้งหนึ่ง
แล้ว แล้วเธอจะกลัดกลุ้มในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องไปทำไมไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด มีแต่ถูกใจหรือไม่ถูกใจ คนที่เธอถูกใจต่อให้เขาทำ
ผิดเธอก็ไม่รู้สึกโกรธคนที่เธอไม่ถูกใจ ต่อให้เขาทำถูก เธอก็ยังขวางตาขวางใจ เพราะฉะนั้น อย่ าไปอาฆาตพย าบาทใครเขาเลย
4. เมื่อใดที่ใครบางคนทำให้เธอเ จ็ บ ป ว ดใจ ลองปล่อยให้มันเป็นไป ทบทวนดูสิว่า
ชีวิตนี้ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพัน คนที่มีชื่อเ สียง คนที่ร วยล้นฟ้า หรือคนที่รักกันปานจะกลืนกินในอดีตวันนี้เหลือไว้แต่ชื่อ! สุดท้ายเธอ
ก็แค่คนที่เคยมาเยือนโลกใบนี้ ต่อให้เธอแค้นเธอก็ต้องไปจากโลกนี้ ต่อให้เธออาลัยอาวรณ์ เธอก็ต้องจากโลกนี้ไปในสักวันหนึ่ง
5. เมื่อใดที่เธอโมโห ลองนั่งนิ่งๆ ทบทวนดูว่าเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้มีอยู่อีกสักกี่วัน ใยเสี ยเวลาไปเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ขอบคุณที่มา : wansukth