1. ยอมให้ลูกหยุดเรียน
เพราะเด็ กบางคนอาจมีอาการป่ วยการเมือง เนื่องด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่ าง
อาจจะเกิดจากวิชาเรียนและการบ้านต่าง ๆ ซึ่งวิชาเรียนอาจง่ายเกินไป
ทำให้เด็ กเกิดความเบื่อ หรือ วิชาเรียนอาจย ากจนเกินไป
ทำให้เด็ กเกิดความกดดันว่าไม่ฉลาดเท่าเด็ กคนอื่น ๆ สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรทำคือ
อย่ าถามลูกว่าทำไมถึงไม่อย ากการไปโรงเรียน เนื่องจากเด็ กมักจะไม่รู้คำตอบ
เมื่อเด็ กไม่รู้ว่าจะตอบอย่ างไร
ก็จะเป็นการทำให้เด็ กเกิดความรู้สึกเค รียดแทน ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ควรบอกเด็ กว่า
ความกลัวไม่ช่วยอะไรหากแต่เด็ กควรเอาชนะความกลัวให้ได้ ควรเปิดใจให้กว้าง
ในการรับฟังความรู้สึกของลูก
2. ทำการบ้านให้
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ชอบทำการบ้านให้ลูกเป็นประจำ ควรเลิกทำแบบนี้
อย่ างเด็ดข าดเพราะสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นี้จะทำให้ลูกไม่ได้
ฝึกคิดหรือเรียนรู้อะไรเลยซึ่งถ้าไม่อย ากให้ลูกเติบโตมาแบบไม่มีความรู้ในสม อง
ก็อย่ าทำร้ ายลูกทางอ้อมแบบนี้เลยค่ะ
3. ขีดเส้นชีวิตให้ลูก
กำหนดกฎเกณฑ์ข้อปฏิบัติต่าง ๆ ให้ลูกเดินตามทางที่พ่อแม่ปูไว้ ซึ่งนั่นอาจเป็นเรื่องดีที่
จะทำให้ลูกมีวินัยแต่ในทุ ก ๆ กฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ก็ควรให้ลูกรับรู้ด้วย พร้อมให้ลูกมีส่วนร่วม
ในการขีดเส้นชีวิตของตนเอง
และต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะทำบางสิ่งด้วยตัวเองบ้างค่ะเพียงเท่านี้ความสำเร็จในชีวิตลูก
ก็จะอยู่ไม่ไกลสุดท้ายนี้ การเลี้ยงลูกที่ถูกต้องจะต้องอย่ าให้ลูกเปราะบางจนเกินไปเหมือน
ไข่ในหิน
อย่ าเลี้ยงลูกให้เห็นแ ก่ตัว ต้องเลี้ยงลูกให้โตไปตามวัย อย่ าให้กินย ากอยู่ย าก
อย่ าให้ลูกกลัวในสิ่งที่ไร้ส าระ โดยพ่อแม่ควรเริ่มต้นสร้างนิสัยเด็ ก ด้วยการทำให้
ตัวเองให้เป็นแบบอย่ าง
พร้อมกับฝึกให้เด็ กรับรู้ และรู้จักรับผิดชอบด้วยตัวเอง รวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็ กได้เรียนรู้รวม
ถึงฝึกฝนนั่นจะทำให้เด็ กสามารถหาแนวทางดำเนินชีวิต ตามบทบาทและหน้าที่ของตัวเอง
ได้เป็นอย่ างดี
4. ทำอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันให้
คุณแม่หลายคนอาจเป็นห่วงว่าลูกจะทานอาหารไม่อิ่มและได้รับส ารอาหารไม่ครบถ้วน
จึงต้องเตรียมอาหารให้ลูกทุ กวัน ถ้าคุณอย ากให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ซะที
คุณก็ควรให้เขาทำอาหารเองค่ะ ถ้าเขาทำไม่เป็นคุณแม่อาจจะต้องสอน
ลูกก่อนสักหน่อย
5. ปลุกลูกไปโรงเรียนตอนเช้าทุ กวัน
เรียกได้ว่ากิจวัตรประจำวันของคุณแม่ที่ต้องทำทุ กเช้า คือการปลุกลูกเพื่อไปโรงเรียน
ซึ่งความจริงแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกให้ตั้งนาฬิกาปลุก
และจัดสรรเวลานอนให้เหมาะสมเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ที่จะจัดการ
กับตารางชีวิตของตัวเอง
6. ซักเสื้อผ้าให้ลูก
เมื่อลูกโตพอที่จะทำงานบ้านได้แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยฝึกหรือให้ลูกได้
ทำด้วยตัวเองและการที่คุณแม่ซักเสื้อผ้าให้ลูกทุ กวันอาจทำให้เด็ ก
เคยตัวและเป็นคนไม่มีวินัยในตัวเองหรือความรับผิดชอบ ดังนั้นหากเด็ กอยู่ในวัย
ที่พอเรียนรู้และทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว
คุณแม่ก็ควรสอนลูกถึงวิ ธีการใช้เครื่องซักผ้าหรือการซักผ้าด้วยมือ
เพื่อที่เขาจะได้ฝึกทำมันด้วยตัวเอง
7. นำของที่ลูกลืมไปให้ถึงที่โรงเรียน
การที่ลูกโทรมาเพื่อบอกให้คุณพ่อคุณแม่นำเอาสิ่งของที่ลืมไปส่งที่โรงเรียน
โดยที่คุณก็ทำตามที่ลูกสั่งทุ กครั้ง ซึ่งนั่นอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็ ก
ที่ไม่รอบคอบได้ ดังนั้นเมื่อลูกโทรมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทำแบบนั้นอีก
โดยที่ของชิ้นนั้นไม่ได้มีความสำคัญถึงขั้นคอข าดบ าดต ายอะไร
ก็ควรบอกปัดเพื่อให้ลูกรู้จักมีความรอบคอบมากขึ้นและตรวจความเรียบร้อย
ของสิ่งของเครื่องใช้ที่ต้องเอาไปโรงเรียนก่อนออกจากบ้านทุ กครั้ง
8. ยุ่งกับการเรียน
การเป็นห่วงสนใจในเรื่องเรียน หรือความเป็นอยู่ที่โรงเรียนของลูกไม่ใช่เรื่องผิด
หรอกที่แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ไปบงการหรือกำหนดเส้นทางการเรียน
โดยไม่ให้เขามีสิทธิคิดหรือตัดสินใจด้วยตัวเอง นั่นอาจจะทำให้ลูก
ของคุณไม่โตเป็นผู้ใหญ่เสี ยที
9. ไม่ยอมปล่อยให้ครูมาว่ากล่าว ตักเตื อน หรือตีลูก
ถ้าลูกมาฟ้องคุณว่าถูกครูตีหรือว่ากล่าวตักเตื อน ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่มีอาการหัวร้อน
และพร้อมจะไปเคลียร์กับครูที่โรงเรียน แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่อย ากบอกว่า
คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องใจเย็น ๆ ก่อนและอาจต้องสอบถามลูกถึงสาเหตุที่ครูทำเช่นนั้น
ซึ่งหากลูกทำความผิดจริง ๆและการลงโ ทษไม่ได้ร้ ายแรงจนถึงขั้น เ ลื อ ด ต กย างออก
คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องถึงขั้นไปคุยกับคุณครูเองที่โรงเรียน ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณครู
ที่ต้องอบรมสั่งสอนลูกของเราอยู่แล้วแต่สิ่งที่ควรทำคือให้คุณพ่อคุณแม่สอนลูกแทนว่าจะ
ต้องทำตัวอย่ างไรเพื่อไม่ให้โดนครูว่าหรือตีอีก
ขอบคุณที่มา : fahhsai