1. ใช้เวลาห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากที่เคยตัวติ ดกัน เป็นตังเมก็เริ่มมีปัญหาชีวิต ภาระหน้าที่ วิถีชีวิต ไม่ตรงกัน
ทำให้ใช้เวลาห่างกันบ่อยขึ้น เรื่อย ๆ อันที่จริงห่างกันบ้างเป็นเรื่องดี
เพราะทำให้แต่ละฝ่ายได้ใช้ชีวิตของตัวเอง เว้นระยะให้คิดถึงกันบ้างแต่ถ้าในใจ
ของเธอ กลับไม่อย ากเห็น อย ากคุยกับแฟนติ ดต่อกันนาน ๆ
เป็นไปได้ว่า เธอสบายใจกว่า ถ้าเขาไม่มายุ่งกับเธอค่ะ! วิ ธีสังเกตตัวเองง่าย ๆ คือ
ถ้าเธอรู้สึกว่าการนัดเจอ นัดเดท กับแฟนเป็น ‘หน้าที่’ ที่ต้องทำ
ไม่ใช่สิ่งที่ทำตามความรู้สึก หรือหัวใจแปลว่าเธอกำลังเบื่อและอาจ ไปหาคนใหม่
ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุ กเมื่อ ถ้ายังไม่อย ากปล่อยมือแฟนก็ต้องจับเข่าคุยกันแล้วล่ะ
ว่าสาเหตุที่ทำให้เธอเบื่อ คืออะไรแล้วแก้ไขมันซะ!
2. หงุดหงิดแฟนแม้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
เมื่อก่อนแฟนทำอะไรก็ดู ‘ดีงาม’ ไปซะหมดท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือ
การขยับนิ้วมือ ไปมาของเขา แค่เห็นก็ทรม านใจสุด ๆอะไรจะหล่อ
จะเท่ขนาดนี้ แต่ปัจจุบัน…แค่ได้ยินเ สียงลมหายใจ ฟืดฟาดของเขาก็หงุดหงิดได้
อีก ไปให้พ้น ๆ สายตาได้ไหม ไม่สิไปให้พ้นจากชีวิตน่าจะดีกว่า (แฟนได้ยินรีบไป
ผู ก ค อ ใต้ต้นถั่วงอกรัว ๆ) แค่เขาเข้ามาอยู่ใกล้ ๆเธอ ก็แทบจะสะอิดสะเอียน ผด
ผื่นคัน จนต้องบอกให้เขา
‘ไปให้ไกล ๆ’ เป็นไปได้ว่าเธอไม่รู้สึกว่าเขา ‘มีเสน่ห์’ อีกต่อไปแล้ว แต่ กลายเป็น
สิ่งน่ารำคาญอย่ างหนึ่ง และนี่แหละจะนำไปสู่การเลิกรา
3. อยู่ห่างแฟนแล้วรู้สึกสบายใจกว่า
เธอเริ่มมีความรู้สึกว่า เธอต้องใส่ ‘หน้ากาก’ ยิ้มแย้มสดใสร่าเริงตลอดเวลา ที่อยู่กับ
แฟน เพราะต้องคอยซ่อนความรู้สึกจริง ๆ เอาไว้นั่นเอง เธอไม่อย ากทะเลาะมีเรื่อง
หรือปิดบังความลับ บางอย่ างไว้ อันที่จริงอยู่กับคนแปลกหน้า อาจสบายใจกว่าด้วยซ้ำ!
จำไว้ว่าอย ากมีเวลาส่วนตัวกับเพื่อนกับอย ากอยู่เป็นโสดนั้น ต่างกัน คนเราต้องมีระยะ
ห่างบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่ในที่สุดก็กลับมาหาแฟนแต่ถ้าอย าก อยู่เป็นโสดคือเธอไม่มี
เขาในหัวใจอีกแล้วอย ากตัดข าดว่าอย่ างนั้นเถอะ! ถ้าเริ่มอึดอัดกับสภาพที่เป็นอยู่
แปลว่าเธอไม่อย ากใช้สถานะ ‘แฟน’ กับเขาแล้วล่ะค่ะ
4. เริ่มคิดถึง ‘การเลิกรา’
‘ห่างกันสักพัก’ อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ที่คลอนแคลนดีขึ้น เพราะได้เวลากลับ
ไปคิดทบทวน สิ่งที่ผ่ านมาและอาจกลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง
แต่มันก็คือดาบสองคม ถ้าไม่กลับมาคืนดี แล้วรักกันมากกว่าเดิม ก็เลิกกันไปเลย!
ซึ่งคู่รักหลายคู่ ก็ใช้เหตุผลนี้เป็นการบอกเลิกอย่ างเนียน ๆ
นั่นแหละค่ะ ลองสังเกตตัวเองว่า เมื่อใช้สถานะ ‘ห่าง’ กับแฟนแล้ว รู้สึกมีความสุข
เป็นอิสระมากขึ้นไหม ถ้าใช่ก็ส่อสัญญาณกลาย ๆ ว่าต่อไปต้องเลิกกันแน่นอน
5. เธอกับแฟนไม่รู้สึกสนิทกันอีกต่อไปแล้ว
เมื่อแรกคบ ก็ตัวติ ดกันตลอด ปล่อยมือกันเกินสองนาทีไม่ได้ ต้องจับมือกันเดิน
ไปนั่นนี่ตลอด แต่ตอนนี้อย่ ามาจับนะ ร้อนเปื้อนเหงื่อ!สำหรับคู่แต่งงาน
ก็ละเลยเรื่องบนเตียงไปโดยปริย าย เพราะรู้สึกกระดากและแปลก ๆที่ต้องมาสัมผัส
ร่ างกายกัน ก็แค่หอมแก้มกอดยังไม่อย ากทำเลยนี่นา
อาการแบบนี้อธิบายได้สั้น ๆ ว่า “ไม่รู้สึกสนิทสนมด้วยแล้ว” ไม่มีอ ารมณ์จะทำอะไร
น่ารักมุ้งมิ้งด้วยกันอีกต่อไปแค่จะยื่นมือไปสัมผัส ก็รังเกียจ ถ้าเธอกำลังเจอเหตุ
การณ์นี้ รีบหาต้นตอ และแก้ไขโดยด่วน ก่อนจะสายเกินไปค่ะ!
6. เริ่มวิพากษ์วิจารณ์หาข้อเสี ยของแฟนมากขึ้นเรื่อย ๆ
เจอแฟนทีไร ขอให้ได้บ่นว่า ขุดคุ้ยวิพากษ์วิจารณ์ ข้อเสี ยต่าง ๆ นานา ‘เธอน่าจะ
ทำได้ดีกว่านี้’ , ‘ทำไมหาเงิ นได้แค่นี้เองล่ะ’ อ ย ากให้เขาหล่อขึ้น
มีชื่อเ สียงมากขึ้น ร วยขึ้น มีความคิดมากขึ้น เพราะตอนนี้มองยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจ
เธอสักอย่ าง มาตรฐานต่ำกว่าเกณฑ์สุด ๆ ถ้าเธอเป็นแบบนี้แปลว่าเธอไม่ได้
มองเขาในฐานะ ‘คนรัก’ แล้วแต่มองในฐานะ ‘สินค้าที่ต้องปรับปรุง’ ผู้ชายที่โดนพูด
กรอกหูว่า ตัวเองต่ำต้อยซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า นานวันความอดทนก็จะหมดลง เขาจะเริ่มไม่
พอใจ และหันมาวิจารณ์เธอบ้าง ในที่สุดก็ทะเลาะและเลิกราค่ะ
ขอบคุณที่มา : stand-smiling