1. หยุดความโมโหที่ไรเหตุผลต้องลดลง
ความโลภ ความโกรธ ความหลงต้องลดลงคุณธรรมความสุขุมต้องมากขึ้น ความเมตตา กรุณา ต้องมากขึ้นหมั่น เ ตื อ น ตัวเองนว่า…
อยู่ให้ลูกหลานเคารพรักมิใช่อยู่ให้ลูกหลานหวาดกลัวจนไม่มีใครยอมเข้าใกล้จงชราอย่ างมีคุณภาพ อย่ า แ ก่ เพียงเพราะอยู่นาน…!!
2. หยุดปิดกั้นจิตใจตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ช่วงเวลาที่ ผ่ า น มา คุณอาจจะพลาดอะไรหลายๆไปเพราะการปิดใจตัวเองไว้ เพียงแค่ลองเปิดใจและเรียนรู้คุณจะพบว่าโลกมันกว้างกว่าที่คุณคิด
อายุเลขห้าไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆรับฟังคนรุ่นใหม่บ้าง จะได้เข้าใจสังคมปัจจุบันมากขึ้นและ ลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย
3. ลดการทำงานหนักได้แล้ว
ถ้าคุณเป็นมนุษย์ เ งิ น เดือนภาคเอกชน อายุ 50ถ้ายังไม่ขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร แสดงว่า…คุณคงไม่อยู่สายตาเจ้านายเท่าไร อ ย่ า เ สี ย เวลาไปกับการทำงานหนักเลย
ใช้เวลาดูแล สุ ข ภ า พ ตัวเองให้มากขึ้นจะดีกว่าถ้าคุณขึ้นเป็นระดับผู้บริหารที่ต้องทำงานหนักเพื่อบริษัทก็จัดสรรเวลาให้กับครอบครัว และ สุ ข ภ า พ ตัวคุณเองบ้างถ้า
คุณเป็นข้าราชการ คุณมีความมั่นคง มีเวลาว่างพอสมควรแล้วใช้เวลาดูแล สุ ข ภ า พ และ เตรียมงานอดิเรกหลังเกษียณได้เลยเช่นกัน… ถ้าคุณทำงานอิสระ freelance
คุณสามารถทดลองเกษียณล่วงหน้าได้เลยถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ คุณคงต้องเริ่มหาผู้ช่วยที่ไว้ใจได้มาช่วยคุณบริหารงานได้ โดยคุณสามารถออกมาดูแลห่างๆได้ แต่อย่ าหวังว่า
ลูกหลานของคุณจะรับภาระนี้ปล่อยให้เขาเลือกทางเดินชีวิตเองเถิด
4. เลิกแคร์ว่าคนอื่นจะคิด อ ย่ า ง ไรกับคุณ
หน้ากากและหัวโขนจะอยู่กับคุณอีกไม่ถึงสิบปีหัดที่จะปล่อยวาง และ ลดตัวตนของคุณลงบ้างกลับไปหาเพื่อนที่ดีและ
จริงใจกับคุณจริงๆออกห่างจากคนที่ไม่จริงใจกับคุณหรือคนที่มาเพียงเพื่อจะเอาประโยชน์จากตัวคุณ หรือเอาเปรียบคุณ
5. หยุดการใช้จ่าย เ งิ น อย่ างฟุ่มเฟือย
ถ้าคุณเริ่มคิดเก็บ เ งิ น ไว้ใช้หลังเกษียณ ตอนใกล้เกษียณดูเหมือนว่าค่อนข้างจะสายไปแล้วนะอายุเกิน 50 เท่าไร คุณควรมี เ งิ น สะสมที่ใช้หลังเกษียณต่อปี บวกไปอีก 10 ปี
เช่น อายุ 51 ควรมี เ งิ น สะสม 10+1=11 ปีอายุ 52 ควรมีสะสม 12 ปี อายุ 60 ควรมี เ งิ น สะสม 20 ปีนั่นเป็นตัวเลขโดยประมาณว่า คุณจะลาโลกตอนที่อายุ 80 ปีและ
อย่ าคาดหวังอะไรกับลูกๆให้เป็น ทุ ก ข์ มากนักในสมัยนี้ พวกเขาก็ต้องแบกรับภาระดูแลครอบครัวเขาเหมือนกัน
6. หยุดทำ ร้ า ย ร่ า ง ก า ย
ของคุณเช่น การ เ ม า ค้ า ง , อดนอน, ทานอาหารไม่ดี กินโดยไม่ประมาณจงเริ่มหันกลับมาดูแล ร่ า ง ก า ย ตัวเอง อ ย่ า ง จริงจัง ด้วยการออกกำลังกายหลายๆ คนคงจะผลัดวันและ
เลี่ยงการออกกำลังกายมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวแล้ว แต่เมื่ออายุเลขขึ้นห้าหมายความว่า… ร่ า ง ก า ย คุณกำลังจะร่วงโรยแล้วดังนั้นควรหันมาใส่ใจกับการออกกำลังกายจริงๆ เ สี ย ที
7. เลิกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงของ ร่ า ง ก า ย
เช่น ตี น กา , ผมหงอก , เหนี ยงที่ค อ หรือริ้วรอยทั้งหลายริ้วรอยเหล่านี้เป็นตัวบอกถึงประสบการณ์ที่คุณ ผ่ า น ร้อน ผ่ า น หนาวมา คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จงภูมิใจกับมัน ยอมรับมัน เติบโตอย่ างสง่างาม
8. หยุดลังเลเกี่ยวกับการทำงานและการหางานใหม่
เมื่ออายุย่ างเข้าวัย 50 คุณควรจะมีงานที่มั่นคงและ เป็นงานที่คุณรักจริงๆ ได้แล้วเพราะถ้างานนั่นไม่ใช่ตัวตนของคุณมันก็คงจะสายเกินไปที่จะไปเริ่มใหม่
จงอดทนทำต่อไป เพราะคุณคุ้นชินกับมันแล้วถ้าจะหางานใหม่น่าจะเป็นงานที่คุณอย ากทำหลังเกษียณหรือ งานอดิเรก ที่ช่วยเติมเต็มให้คุณหลังเกษียณ
9. หยุดการเล่นอินเทอร์เน็ตที่มากเกินไป
คุณควรเริ่มทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีคุณค่าดีกว่า เ สี ย เวลากับ S o c i a l N e t w o r k (ยกเว้นว่าคุณใช้ในการ ติ ด ต่อเพื่อนฝูงเก่าๆหรือหาข้อมูล ข่ า ว ส า ร ที่เป็นประโยชน์)
เล่นได้ แต่ต้องมีการจำกัดเวลาเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คุณ เ สี ย เวลาและได้ประโยชน์น้อยสำหรับคนที่มีครอบครัว กลับมาดูแลคู่ชีวิตและลูกของคุณให้มากขึ้นเขาเหล่านั้นเป็นคนที่หวังดีกับคุณเต็มร้อย
โดยไม่มีเงื่อนไขสำหรับชายโสด ไม่ง่ายที่จะหาคู่ชีวิตที่รักตัวคุณมากกว่ากระเป๋าสตางค์ของคุณ หาหมามาเลี้ยงยังง่ายกว่าสำหรับหญิงโสด คุณคงเคยชินกับชีวิตโสดแล้วและรู้ว่าอยู่คนเดียวสบายที่สุดแล้ว
10. หยุดคิดแทนลูกๆ
คุณไม่มีทางอยู่ดูแลลูกไปได้ตลอดชีวิตดังนั้นต้องรู้จักวางมือ ลูกๆมีทางเดินของเขาหากคิดแทนทำแทนไป เ สี ย หมด คุณเหนื่อยตลอดแถมทำให้ลูกๆ ดูแลตัวเองไม่เป็นไปตลอดชีวิตวันหนึ่งที่คุณจากไปพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อยังไง..?
ที่มา : รักยิ้ม