มีหลายคนเคยถามตัวเอง ทำไมการมีชีวิตที่ปกติสุขถึงห่างไกลออกไปทุ กที
นั่นอาจเป็นเพราะเรามองสิ่งที่ทำให้มีความสุข คือเรื่องไกลตัว
ไม่เคยมองว่าเราสามารถสร้างสุขให้ตัวของเราเองได้ การไม่คิดร้ ายพย าบาทคนอื่น การไม่อิ จฉาริษย าคนอื่น
การไม่โกรธเกลียดคนอื่น การลดความอย ากลง เมื่อลด ละ วางสิ่งเหล่านี้ได้ ใจเราจะเป็นสุข
เคยถามตัวเองไหม ใจที่เป็นสุขเป็นอย่ างไร ?
ใจที่เป็นสุขนั้น คือใจที่นิ่งสงบ มันจะเบา มันจะเย็น แม้ต้องเจอเรื่องชวนมัวหมองก็ไม่หวั่นไหว
เมื่อใจมันนิ่ง มันจะไม่คิดร้ ายกับใคร มันจะมองทุ กอย่ างเป็นบวกหมด
แม้จะต้องพบเจอเรื่องที่แน่และหนักหนา แต่ก็จะมีมุมดี ๆ ให้เราคิดต่าง
เมื่อไหร่ที่ใจจะนิ่งได้ อย่ าอยู่ใกล้คนชั่ ว คนคิดชั่ วจะดึงใจและกายเราลงสู่ที่ต่ำ
อย่ าเอากิเลสตัณหาครอบชีวิต เมื่อใดที่ใช้กิเลสนำทาง เอาความอย ากนำชีวิต ชีวิตจะบร รลัย
อย่ าได้เอาตัวไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คนทำไม่ดี เพราะเมื่อซึบซาบทุ กวัน ทุ กวันเข้า
เราจะกลายเป็นแบบนั้นไปด้วย เมื่อเราอยู่กับสิ่งที่ไม่ดีมาก ๆ เราจะมองว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องปกติ
จงเลือกคบมิตร จงเลือกเป็นลูกกตัญญู จงเลือกเป็นคนดีที่ทำดี การทำดีนั้น
เราสามารถทำได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ การให้ทาน
ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี และการทำดีที่ยิ่งใหญ่ คือการกตัญญูต่อพ่อแม่ เลี้ยงดูท่าน
ตอบแทนบุญคุณของท่าน เมื่อเราปฏิบัติแต่ความดีแล้ว แม้นต้องเจอคราวเค ราะห์หนัก
เทวดาจะช่วย ผ ีจะช่วย ครูบาจะช่วย แต่ตัวเราต้องดีให้ได้ก่อน ท่านถึงจะคุ้มครอง
ขอบคุณที่มา : kiadtikun