เด็ กหญิงคนหนึ่งเห็นแม่นั่งแ ก้กลุ่ มด้ายที่ยุ่งเหยิงด้วยความอดทน
แม่พย าย ามอยู่หลายครั้งก็ไม่สามารถแก้ด้ายกลุ่ มนั้นได้สักที
แต่แม่ก็ไม่ล้ มเลิก พอเหนื่อยทีก็พักไปทำอย่ างอื่น
แล้วก็กลับมาหาทางแ ก้ด้ายกองนั้นอีก
ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงถามแม่ว่า..
“หนูเห็นแม่พ ย าย ามแก้ด้ายกองนี้มานานแล้วก็ไม่เห็นแก้ได้
สักที ทำไมแม่ไม่ตัดมันทิ้งไปซะ”
แม่ของเด็ กหญิงตอบว่า…
“ด้ายกลุ่มนี้ มีเชือกแค่เส้นเดียวแม่หาปลายเชือกเจอแล้ว
ยังไงก็ต้องแก้ให้ได้”
วันต่อมา.. เด็ กหญิงเห็นแม่นั่งลูบไล้เส้นด้าย
ที่สุดท้ายก็แก้ออกมาจากกองด้ายที่ยุ่งเหยิง ด้วยความภูมิใจ
แม่บอกกับเธอว่า..
“จำไว้นะลูก”
เส้นด้ายก็เหมือนชีวิตเรา ถ้าเกิดป ม พั น กันขึ้นมา
ก็เหมือนกับชีวิตเราเวลามีปัญหา
ถ้าแม่ตัดด้ ๅยกลุ่มนั้นทิ้งไป
ก็เหมือนแม่แก้ปัญหาแบบสุ่ ม ๆ
แล้วเอาด้ายที่มีรอยต่อไปทอผ้าก็จะทำให้ผ้าดูไม่มีราคา
ไม่มีใครอย ากซื้อ เหมือนกับชีวิตคนเราที่เต็มไปด้วย
ปัญหาวุ่นวๅยเป็นหางว่าว
กลายเป็นคนจับจด หมกมุ่นกับปัญหา
ไม่มีใครอย ากคบหาสมาคม
แต่ถ้าเรารู้ต้นตอของปัญหาแล้วให้เวลากับมันสักนิด
เราก็จะคิดพิจๅรณาหาทางจัดการกับปัญหาได้
อย่ าเป็นคนทิ้งปัญห า หรือแก้ปัญห าส่งเดช
เพรา ะชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหาคาราคาซัง
แก้ไม่ต กหรือแก้ไม่ถูกทาง
จะเป็นตัวถ่วงให้เราห่วงหน้า
พะวงหลังไปเรื่อย ๆ”
ขอบคุณที่มา : chayend