บ่าย วันหนึ่งผมเลิกงานกลับบ้านร้อนจน เหงื่อ โ ช ก เปิดตู้เย็นพบแตงโมแช่เย็น
อยู่ครึ่ง ซี ก ดีใจจนคว้าออกมาแ ท ะ กินจนเรียบครู่ต่อมา
ภรรย าผมก็กลับมาถึงด้วยเ ข้าประตูก็บ่น “กระหายน้ำ ร้อนมาก!”เธอเปิดตู้เย็น
และชะ งั ก ผมบอกเธอว่าแตงโมซี ก นั้นผมกินไปแล้วสีหน้าเธอมีแวว ไม่พอใจรีบ
เอาถ้วยไปรินน้ำหยิบกระติกขึ้นมาก็พบว่าในกระติกแห้งสนิท! เธอพูดขึ้นมาทันที
“เธอกลับบ้านมาก่อนทำไมไม่ต้มน้ำไว้บ้าง มัวทำอะไรอยู่?
” ผมโกรธบ้าง “แล้วทำไมอะไรๆ ก็ต้องให้ฉันทำ?” เราสองคนทำสงค รามเย็นกัน
อยู่เป็นอาทิตย์กว่าจะยอมคืนดีกันวันเส าร์ ผมกลับบ้านพ่อแม่ไปคนเดียวพอ
เห็นหน้าทั้งคู่ก็ถามว่า “ทำไมไม่เห็นเมตตามาเลยอาทิตย์นี้?
”ผมเล่าเรื่องที่โกรธกันให้ฟังแม่ฟังแล้วตำ ห นิ ผม “ทำอะไรไม่ควรห่วงแต่ตัวเอง ควรใส่ใจคนอื่นบ้าง”
ผมไม่เห็นด้วย“แค่กินแตงโมไปครึ่งซี ก จะอะไรนักหนา? ”พ่อหัวเราะ
“แกไม่ต้องแก้ตัว พรุ่งนี้วันอาทิตย์พากันมากินข้าวที่นี่นะ”
รุ่งขึ้นผมพาครอบครัว มาหาพ่อแม่พอเข้าบ้าน พ่อก็ใช้ผมไปซื้อน้ำส้มสายชู พอผม
กลับมาพ่อบอกให้เมตตาพาลูกออกไปข้างนอกก่อนบอกแล้วพ่อก็เอาแตงโมครึ่งซี กมาให้ผม
“แกร้อนซะเหงื่อ โ ช ก กินแตงโม ดั บ กระหายหน่อยเถอะ”
แตงซี กนั้นใหญ่ทีเดียวน่าจะหนักราวกิโลสองกิโลได้พ่อส่งช้อนให้คันหนึ่ง“กินไม่หมดก็เหลือไว้ให้
เมียแกกินบ้าง”ผมหยิบช้อน แล้วก็ตักกินใหญ่กินไม่ถึงครึ่งก็พุงกางหลัง
กินอาหารเที่ยงพ่อเอาแตงโม สองซีกออกมาวางบนโต๊ะบอกผมว่า
“แกดูทีซิว่ามันต่างกันตรงไหน?
”ผมงง ดูอย่ า งละเอียดซี กหนึ่งเป็นซี กที่ผมกินไป อีกซี กก็ถูกกินไปด้วยดูอยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่เห็นว่ามันต่างกัน
อย่ า งไร จึงส่ายหัวพ่อชี้ให้ดูแตงแล้วอธิบายว่า…“
ซี กนี้แกกิน อีกซี กนี่เมตตา กินพ่อบอกแกทั้งสองว่าถ้ากินไม่หมดให้เหลือไว้ดูสิว่าเมียแกใช้ช้อนกินยังไงเธอ
เริ่มตักจากตรงกลาง กินไปถึงขอบครึ่งหนึ่งอีกครึ่งไม่ถูกแตะต้องแล้วดูของแกนี่ แกควักกินเนื้ อตรงกลางจนหมด
เหลือขอบไว้ให้คนอื่นใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเ นื้อแตงโมหวานตรงกลาง?
จากเรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ ก็เห็นได้ว่าเมตตามีใจใหญ่กว่าแกมาก”ผมหน้าแดงทันที พ่อพูดอย่ า งมี
ความหมายว่า…“คนสองคนอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต จะมีเรื่องสำคัญอะไรนัก?
ความรักความใส่ใจระหว่างผัวเมียอยู่ที่ไหน?มันก็อยู่ในน้ำมันหยดเดียวข้าวช้อนเดียวน้ำแกงทัพพีเดียว
คราวก่อนแกโ ก ร ธ กันเรื่องกินแตงโมแล้วยังมีข้ออ้างมากมายทั้งที่เป็นฝ่ายผิดถ้าเมตตาเป็นฝ่ายกลับถึง
บ้านก่อน รับรองว่า เธอจะต้องเก็บไว้ให้แกครึ่งหนึ่ง”
“อย่ า คิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กที่ไม่สำคัญแต่มันสะท้อนให้เห็นหัวใจคนแตงโมชิ้นเดียวนั่นแหละให้ความรู้ในการ
ใช้ชีวิตประจำวันหัวใจคนต่อให้เย็นชาแค่ไหน แกค่อยๆ ให้ความอบอุ่น มันจะร้อนขึ้นสักวัน
หรือหัวใจที่ต่อให้ร้อนเท่าไรแกสาดน้ำเย็นใส่ทีละช้อน..ทีละช้อนสักวัน
ก็จะทำให้เย็นลงโดยสมบูรณ์คิดดูนะถ้าเมตตาเป็นเหมือนแกทำอะไรไม่เคยใส่ใจ นานวันเข้า แกจะรู้สึกยังไง?”
คำพูดคำเดียวนั้นปลุกคนตื่นโดยแท้ผมพบในทันใดว่ารองเท้าแตะ ที่วางไว้ให้ทุ กวันเมื่อกลับถึงบ้าน.
น้ำชาที่ชงไว้ให้..ร่มที่วางหน้าประตูย า มฝน
ต กล้วนแล้วแต่เป็นความรักความใส่ใจ ของเมตตาแต่ผมกลับไม่เคยเห็น ไม่รู้จักเอาใจเขาใส่ใจเราคิดแล้วก็
ละอายรีบยกชาม เกี๊ยวมาให้เมตตา “เธอกินก่อนเถอะ” เธอหัวเราะ “ไม่ต้องมาทำไก๋ต่อหน้าพ่อกับแม่”
พ่อก็หัวเราะ “ถ้าทำไก๋อย่ างนี้ได้ทั้งชีวิต ก็ถือว่าเป็นสามี ที่ดีนะลูก”
ในใจมีรัก ความรักนั้นต้องให้กันและกันเราพึงใส่ใจอีกครึ่งของเราอย่ าคิดว่าทุ กปัญหาเป็นการหาเรื่องโดย
ไ ร้ เหตุผลลองคิดถึงความผิดของตนดูใช้ชีวิตธรรมดาของตนให้ดี ใส่ใจคนในครอบครัวอย่ ามัวแต่สนใจ
เรื่องของคนอื่นความสุขไม่ได้อยู่ที่
บ้านใหญ่เพียงใดแต่อยู่ที่เ สียงหัวเราะ ในบ้านหวานแค่ไหนความสุขไม่ใช่ได้ขับรถหรู เพียงใดแต่อยู่ที่ขับรถ
กลับถึงบ้านได้ปลอดภัย ความสุขไม่ใช่มีคนรักสวยแต่อยู่ที่รอยยิ้มของคนรัก สดใสเพียงใดความสุข
ไม่ได้อยู่ที่ได้ฟังคำหวานมาก หรือน้อยแต่อยู่ที่ย ามโศกเศร้าเสี ยใจมีคนบอกฉันว่าไม่เป็นไร ยังมีฉัน
อยู่อย่ า มัวแต่สนใจเรื่องของคนอื่นในโลก โ ซ เ ชี ย ล จนห่างเหินกับคนในครอบครัวนะครับ
ขอบคุณที่มา : wansukth